เลือกดูหัวข้อที่สนใจ
กล้องคืออะไร
ในปัจจุบันกล้องมีความสำคัญค่อนข้างมากในชีวิตเรา เนื่องจากเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบ 3 G ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันโดยเรานำเทคโนโลยี 3G มาใช้กับกล้องไม่ว่าจะนำมาต่อกับกล้องเพื่อทำเป็นระบบ online หรือการนำมาเพื่อใช้กับมือถือเพื่อดูภาพกล้องจากเครื่องบันทึกภาพส่วนวิธี การแล้วแต่ล่ะบริษัทว่าเค้ามีความสามารถในการทำหรือไม่ แต่ก็ยังมีบ้างที่ทำให้ดูภาพไม่ได้เนื่องจากสาเหตุหลัก ๆ ก็คืออินเตอร์เนตไม่นิ่งหรือตัว router มีปัญหาแต่ส่วนมากก็สามารถดูภาพได้ทั้งนั้น ซึ่งสาเหตุทั้งหมดทำให้เราสะดวกสบายกันมากขึ้นจึงต้องการมีกล้องใช้ในแต่ล่ะ บ้านหรือแต่ล่ะโรงงาน โดยวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ล่ะที่ก็แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันโจรผู้รายหรือการเฝ้าตรวจสอบการทำงานของพนักงาน บริษัท หรือใช้ในการตรวจเช็คสินค้าที่จัดส่งเป็นต้น
ซึ่งการพัฒนาของ ตัวกล้องก็เริ่มมีการเปลี่ยนไปค่อนข้างมากจากแต่ก่อนแค่มองเห็นภาพเป็น ขาว/ดำก็โอเคแล้วแต่ก็เริ่มมีการพัฒนาไปต่อค่อนข้างมากทำให้จากขาว/ดำเป็นสี จากเครื่องบันทึกภาพเทป เป็นเครื่องบันทึกภาพดิจิตอลที่บันทึกลง hdd. จากภาพสีของตัวกล้องเป็นกล้อง ip camera จากตัวกล้องไอพีเป็นกล้อง ip ระบบ hd จาก ip hd เป็นตัวกล้องระบบ hd-sdi ซึ่งการพัฒนาแต่ล่ะอย่างทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดสูงขึ้น ผมยังจำได้ครับเมื่อสมัยประมาณ 7 ปีที่แล้วผมทำออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์ยังใช้ระบบอินเตอร์เนต 56K กันอยู่เลยซึ่งการทำระบบนี้ทำให้เห็นภาพค่อนข้างช้าไม่เร็วเหมือนปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันค่าอินเตอร์เนตไปเป็น กิกกันแล้ว แต่เราต้องดูค่าอัพโหลดของเราครับว่าเร็วแค่ไหนในปัจจุบันค่าอัพโหลดสูงสุด ที่เราได้ประมาณ 1 กิกกันแล้วครับทำให้ภาพที่ได้เรียกว่าเร็วมากดีเลย์ประมาณ 3 วิเองครับ
การ ใช้งานอินเตอร์เนตเพื่อให้สามารถดูภาพออนไลน์ในปัจจุบัน ลูกค้าเริ่มมาใช้ระบบ fix ip กันแล้วครับเพียงแต่ว่าระบบนี้ราคาค่อนข้างแพงมากยังไม่แนะนำ ส่วนว่าเร็วยังไงนะหรอครับท่านลองนึกภาพตามนะครับ ว่าถนนที่เราวิ่งปัจจุบันจะมีรถติดบ้างอะไรบ้างสาเหตุก็มาจากมีคนใช้ถนนเส้น นี้เยอะ แต่ถ้าเป็นทางด่วนล่ะครับคนใช้ไม่เยอะมากทำให้รถวิ่งได้เร็วถึงแม้ว่าถนนจะ แคบก็ตาม สาเหตุก็เหมือนกันล่ะครับเปรียบเหมือนอินเตอร์เนตทั่วไปเป็นถนนธรรมดา แต่ fix ip เป็นถนนทางด่วนอะไรประมาณนี้ครับ
การออนไลน์ กล้องเราจำเป็นจะต้องสมัคร host ก่อนอันดับแรกไม่ว่าจะเป็น no-ip, dyndns, dlinkddns, หรือจะเป็น host ของบริษัทกล้องที่เราใช้บริการก็ตาม ส่วนวิธีสมัครจะแล้วแต่ล่ะบริษัทที่เค้าถนัด ส่วนบริษัทเราจะใช้ host ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องบันทึกเอง ซึ่งวิธีการสมัครไม่ยุ่งยากนักให้เข้าเว็บ dahuaddns.com เพื่อลงทะเบียนให้กดหัวข้อ Not Register? แล้วลงทะเบียนตามภาพด้านล่างนี้
- user name:ให้ใส่emailของเรา
- password:เราสามารถใส่อะไรก็ได้แต่ตัวอักษรตั้งแต่6ตัวไม่เกิน16ตัว
- confirm password:ให้เราใส่เหมือน pass
- real name:ใส่อะไรก็ได้ที่เราต้องการแต่ไม่เกิน 100ตัว
- country:ให้เลือกประเทศที่เราอยู่
- company:ให้ใส่ชื่อบริษัทของเราหรือจะใส่ชื่อเราก็ได้ครับ
- company address:ใส่ที่อยู่ครับ
- mobile phone:ใส่เบอร์โทรของเราครับ
- verify code:ใส่ตามที่เราเห็น
- แล้วก็ติกถูกทั้ง 2 ข้อเป็นอันจบ
หลังจากเสร็จแล้วให้กด register เป็นอันเสร็จครับหลังจากนั้นเราก็รออีเมล์ที่ทางบริษัทจัดส่งมาให้ครับ หลังจากนั้นเรามาที่เครื่องบันทึกของบริษัทกล้องโอกามิครับ มาที่หัวข้อ menu ครับแล้วเข้าหัวข้อ config เลือก network เลือกหัวข้อ ddns ติกถูกที่หัวข้อ quick ddns ให้ติกที่หัวข้อ custom domain name ให domain name พิมพ์ ชื่อเว็บที่เราต้องการครับ ส่วนuserให้เราพิมพ์อีเมล์ของเราที่ใช้ในการสมัคร กับทางบริษัทครับ หลังจากนั้นท่านจะได้ชือเว็บมา 1 ชื่อเช่น okami.dahuaddns.com แต่ท่านต้องรอให้ทางบริษัทลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนนะครับจึงจะใช้ได้ใช้ เวลาประมาณ 1 วันครับหลังจากนั้นเราต้องport forword ให้กับเครื่องบันทึกภาพกล้องต่อครับ
การทำ portforwordให้กับการ ติดตั้งกล้อง
การทำต้องพิมพ์ค่า gateway ของ router ก่อนส่วนวิธีการเข้าดูค่า gateway ให้เรามาที่มุมซ้ายของคอมพิวเตอร์ในหัวข้อ start ครับและมาที่หัวข้อ run พิมพ์คำว่า cmd และกด enter จะขึ้นหน้าต่าง dos ขึ้นมาหลังจากนั้นพิมพ์คำว่า ipconfig จะเห็นค่า gateway ให้เราจดค่านี้ขึ้นมา แล้วนำไปใส่ใสช่อง address ที่ explorer เช่นพิมพ์ 192.168.1.1 เราจะเข้ามาที่routerของเราแต่เราต้องใส่ user name , password เพื่อเข้าไปตั้งค่าใน router ด้วยครับ โดยส่วนมาก user จะเป็น admin , tot ส่วน password จะเป็น admin , password , tot ,true , 3bb , tplink เราต้องดูที่ router ของเราอีกครั้งว่าเป็นของค่ายไหนครับ หรือถ้ามีคนมาเซ็ทให้เค้าจะแก้ password เราต้องโทรถามเค้าก่อนว่า password เป็นอะไร หลังจากเราเข้าได้แล้วให้มาที่หัวข้อ advanced หรือ nat , portforward แล้วแต่routerอีกครับว่าเค้าใช้ชื่ออะไร สั่งเกตุง่ายๆ ครับจะมีให้เราใส่หมายเลย ipaddress และค่า start port และ end port ค่า ip ให้เราใส่เป็น 192.168.1.108 ครับ หรือถ้าค่า gateway ของเราเป็น 192.168.2.1 เราต้องใส่ค่าเป็น 192.168.2.108 ครับแล้วเราต้องไปแก้ไขที่เครื่องบันทึกด้วย ให้ค่าตรงกัน ส่วน port ที่เราใช้นั้นจะมีด้วยกัน 3 port ครับคือ 81 37777 377778 ให้เราใส่ค่าตามนี้นะครับ หรือให้ดูเครื่องบันทึกของท่านเองครับว่า port ที่เราเห็นมี port อะไรบ้างแต่เราจำเป็นต้องแก้ไข 1 portนะครับไม่ว่าจะเป็นเครื่องบันทึกของบริษัทไหนก็แล้วแต่เพื่อหลีกเลียง การชนกันของ port ที่ต้องแก้ไขคือ port 80 ครับให้เราแก้เป็น port 81 แทนเพื่อเป็นการป้องกันหลาย ๆ อย่างนะครับข้อนี้ห้ามลืมสำคัญมาก
ถ้าเป็น windows8 ให้มาที่มุมขวาและมาที่ search พิมพ์ run และกด enter ต่อครับหลังจากนั้นก็เหมือนกันทั้งหมดครับ
วัตถุประสงค์ในการซื้อกล้อง
การซื้อกล้องซักตัวเราต้องรู้อะไรบ้างผมจะแบ่งเป็นข้อ ๆ ให้แล้วกันครับ
-ใช้ กล้องเพื่อป้องกันโจรผู้ร้ายอันนี้สมควรที่จะซื้อครับแต่อย่าคาดหวังมากจน เกิดความประมาทนะครับ เช่นเห็นว่ามีกล้องแล้วเลยไม่ต้องติดอุปกรณ์กันขโมยอย่างอื่น อันนี้ผิดวิธีครับกล้องสามารถทำงานได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น ลองคิดดูนะครับกล้องจับภาพคนร้ายได้ แต่ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าคนร้ายอยู่ที่ไหน กล้องสามารถเป็นตาให้เราได้บ้างเท่านั้นแต่ไม่ใช้ทั้งหมดนะครับ
-ใช้ เพื่อตรวจสอบการทำงานของพนักงาน ว่าพนักงานมีการหลับกันหรือไม่หรือว่าพนักงานหายไปนาน มีการเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ หรือว่าพนักงานลาเลยไม่มีคนคุมเครื่องจักรอะไรประมาณนี้ครับ
-ใช้ เพื่อการตรวจนับสินค้า ท่านเคยเกิดเหตุการอย่านี้หรือเปล่าครับ เราว่าเราส่งของให้ลูกค้าครบแต่ว่าลูกค้าโทรมาแจ้งว่าขาดการส่ง หรือสินค้าที่จัดส่งมีไม่ครบถ้าท่านไม่มีหลักฐานอะไรเลยท่านจะต้องตัดสินใจ 2 อย่าคือตัดลูกค้ารายนี้ออก หรือยอมขาดทุนจัดส่งไปก่อนเดียวค่อยตรวจสอบใหม่ แต่ถ้าท่านมีกล้องท่านก็สบายไปล่ะครับไม่ต้องกังวลปัญหาอย่างนี้หมดไปได้แน่ นอน
-ใช้กล้องเพื่อนับจำนวนลูกค้าและการทำงานของพนักงาน ท่านเคยมัยครับว่าลูกค้าเข้าร้านมาก็เยอะแต่รายได้เราไม่มีเลยเป็นเพราะ สาเหตุอะไร ลองใช้กล้องในการตรวจเช็คดูสิครับถึงจะชัวสุด ท่านอาจจะทราบถึงสาเหตุเลยว่าเกิดจากอะไรอย่าเพิ่งโทษแต่คนอื่นไปนะครับ เดียวพนักงานที่จริงใจกับเราหายกันหมดพอดีเอาแน่นอนก่อนดีกว่า
-ใช้ กล้องเพื่อเป็นการตรวจสอบสภาพการจราจรในท้องถนน ลองคิดดูสิครับถ้ารถติดเราจะทราบสาเหตุได้อย่างไรว่ารถติดเพราะอะไรเราต้อง วิ่งไปดูหรือ กล้องเป็นคำตอบของท่านได้ครับท่านไม่จำเป็นจะต้องเดินไปดูก็สามารถทราบถึง สาเหตุแล้ว
-ใช้กล้องเพื่อการเปิดตัวสินค้า ท่านจะทราบได้อย่างว่างานเปิดตัวสินค้าของท่านมีคนตอบรับดีแค่ไหน หรือจะฟังแค่พนักงานบอกว่าตอบรับดี แค่นั้นก็จบหรือครับเรามีทางออกนิครับเราเอาแค่กล้องไปตั้งไว้ก็เป็นอันใช้ ได้แล้วครับว่าตอบรับดีแค่ไหน
การเดินสายกล้อง
การเดินกล้องเรามีหลายวิธีในการเดินสายแบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้
-สายRG6 เราสามารถใช้สายสัญญาณประเภทนี้ได้เป็นอย่างดีโดยตัวสายสัญญาณแบ่งเป็น ประเภทย่อยๆอีก โดยจะแบ่งเป็นดังนี้ สายRG6 ประเภท 64 เส้นถักชิว 90-95% สายRG6 ประเภท 128 เส้นถักชิว 90-95% สาย RG6 168 เส้นถักชิว 90-95% หรือแม้แต่สายทองแดงก็ตาม โดยเราจะแบ่งการเดินเป็นระยะครับ เช่นถ้าเราเดินกล้องประมาณ 100 เมตรและเป็นประเภทบ้านพักอาศัยเราสามารถใช้สาย RG6 ชิว64เส้นถักได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงชิวว่าอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ถ้าเดินสายในโรงงานประมาณ 100 เมตรเราจำเป็นจะต้องใช้สาย RG6 128 เส้นถักชิว 95% เท่านั้น เพราะถ้าเราใช้เกรดต่ำจะมีการรบกวนของสนามแม่เหล็ก เนื่องจากมีเครื่องจักรในการทำงานโดยต้องดูแนวเดินสายอีกครั้งด้วยว่าเรา ต้องเดินผ่านเครื่องจักรหรือไม่และผ่านสายไฟขนาดใหญ่หรือไม่ แต่ถ้าเราต้องการเดินสายเกิน 100 เมตรแต่ไม่เกิน 200 เมตรเราก็ยังสามารถใข้สาย RG6 128 เส้นได้เช่นกันแต่เราต้องพยายามเลี่ยงสายไฟขนาดใหญ่เพื่อไม่ให้เข้ามารวบกวน สายสัญญาณและสายเราต้องเลือกเป็นชิว 95% เท่านั้น แต่ถ้าเป็นการเดินสายเกิน 200 เมตรแต่ไม่เกิน 500 เมตรเราต้องใข้สาย RG6 ชิว 95% เท่านั้นที่เป็นสายทองแดงแท้ครับแต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นสายทองแดง ผมมีวิธีครับเราต้องใช้แม่เหล็กทดลองดูดสายสัญญาณดูครับ แต่การเดินทั้งหมดเราสามารถปรับแต่งหน้างานได้อีกครั้งโดยจะคำนึงถึงพื้นที่ เป็นหลัก
ส่วนท่านที่ใช้สาย RG6 เกิน 100 เมตรนั้นการต่อสายสัญญาณเราต้องใช้วิธีต่อด้วยนะครับไม่ใช่ว่าเราใช้ตัวต่อ สายที่เป็นเหล็กแล้วก็จบเรื่องถ้าเป็นการเดินทีวีนะได้ครับแต่ถ้าเป็นกล้อง ไม่ได้เราต้องใช้วิธีการเชื่อมสายสัญญาณแทนการต่อแบบใช้ตัวต่อสาย อุปกรณ์การเชื่อมสายสัญญาณก็มีหัวแรง น้ำยาเชื่อมตะกั่ว ตะกั่วส่วนเทคนิกการต่อผมขอไม่พูดถึงนะครับ
-สายสัญญาณประเภทโทรศัพท์ เราอาจจะเคยเห็นนะครับว่ามีช่างบางคนใช้สายโทรศัพท์ในการเดินสาย แต่ถ้าถามว่าเดินได้มัยก็พอเดินได้ครับแต่เป็นวิธีที่ผิดแต่ก็ยังมีคนเข้าใจ ว่าสามารถใช้ได้ ส่วนการใช้สายโทรศัพท์นั้นเราจะใช้ก่อต่อเมื่อเราเดินไม่ไกลเกิน 30 เมตรครับถ้าเกินกว่านั้นอาจจะได้คุณภาพที่ไม่ดีเท่าทีควรอาจจะมีการรบกวนขอ ไฟเกิดขึ้นได้สรุปการใช้สายโทรศัพท์ผมไม่แนะนำให้ใช้
-สาย lan ในปัจจุบันนี้เราเริ่มมีการใช้สายประเภทนี้กันมากขึ้นโดยการใช้สายประเภทนี้ เราสามารถเดินได้ไกลมากที่ผมมีโอกาสทดลองมาก็เดินได้ประมาณ 1 กิโลครับแต่ต้องมีอุปกรณ์ในการแปลงสัญญาณภาพเพื่อเป็นการตัดสัญญาณรบกวนออก โดยวิธีขยายสัญญาณก่อนแล้วถึงปลายสายค่อยลดทอนสัญญาณให้เข้ากับเครี่ องบันทึกภาพได้ โดยจะแบ่งอุปกรณ์แปลงสัญญาณเป็นดังนี้ครับ balun แบบมีไฟเลี้ยงกับ balun ชนิดไม่มีไฟเลี้ยง โดยถ้าเป็น balun ประเภทมีไฟเลี้ยงสามารถเดินได้ไกลกว่าประเภทไม่มีไฟ แต่ถ้าถามว่าบริษัทกล้องเราแนะนำหรือเปล่านะหรอครับเราไม่แนะนำให้ใช้ครับ เนื่องจากภาพที่ได้จะเป็นภาพหลอกตาว่าภาพชัดแต่จริง ๆ ถ้าเราสังเกตุจะเป็นมีจุดสีดำขึ้นทั่วทั้งหน้าจอแต่เป็นแบบกระพริบ
ในปัจจุบันกล้องมี 3 ชนิดหลังแบ่งดันนี้ครับ
- กล้องชนิดอนาล็อก ซึ่งจะเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเนื่องจาก ราคาที่ค่อนข้างถูกและการติดตั้งที่ง่ายโดยตัวกล้องความคมชัดจะแบ่งเป็น ทีวีลายซึ่งกล้องที่มีทีวีลายที่สูงจะมีราคาค่อนข้างแพงแต่ต้องดูเรื่อง lux ควบคู่กันไปด้วยเนื่องจาก lux ตัวตัวชี้วัดด้านการรับแสงถ้ามีค่า lux ที่ต่ำจะทำให้ภาพที่ได้ในช่วงเวลากลางคืนมีความคมชัดมากขึ้น ส่วนวิธีการติดตั้งก็ต้องใช้สาย RG6 เป็นตัวนำสัญญาณภาพ ซึ่งถ้าเกิดเดินสัญญาณภาพไกลเราจำเป็นต้องใช้สายทองแดงในการนำสัญญาณแทนสาย ทั่วไป เช่นถ้าเราเดินสัญญาณภาพประมาณ 150 เมตรขึ้นไปแต่ไม่เกิน 250 เราต้องเปลี่ยนประเภทสายเป็น RG6 ชิว 95% 128เส้นถัก แต่ถ้าเราเดินสัญญาณภาพประมาณ 250 เมตรขึ้นไปแต่ไม่เกิน 500 เมตรเราต้องใช้สายทองแดงแท้เท่านั้นเพื่อให้ภาพที่ได้ไม่มีสัญญาณกวนหรือ สัญญาณตก ส่วนวิธีการดูว่าสายเป็นทองแดงแท้หรือเปล่าเราต้องใช้แม่เหล็กในการตรวจเช็ค ส่วนวิธีการคือให้ปลอกสายออกมาและนำแม่เหล็กมาดูดดูว่าติดหรือไม่ถ้าดูดแล้ว ติดก็แปลว่าทองแดงแท้ครับ อันนี้เป็นวิธีการตรวจเช็คเบื้องต้นเท่านั้นนะครับ ส่วนวิธีการเดินไฟเราต้องใช้สายไฟทั่วไปเท่านั้นผมไม่แนะนำให้ใช้สาย โทรศัพย์ในการนำสัญญาณไฟ 12V นะครับเนื่องจากจะทำให้คุณภาพกล้องที่ได้ออกมาไม่ 100% ท่านลองคิดดูก่อนนะครับว่าไฟ 12V เป็นไฟที่ไม่สูงการไปถึงจุดปลายกล้องไฟจะเหลือเท่าไหร่ครับบางเคสจุด ปลายกล้องอาจจะมีเหลือไฟแค่ 8V ก็ได้อันนี้ถ้าต้องการแก้ปัญหาจะทำได้ค่อนข้างยากและมีค่าใช้จ่ายที่สูงตาก ไปด้วย ส่วนท่านที่ต้องการเดินให้มีระบบที่ปลอดภัยที่สุดให้เดินไฟไปเลี้ยงที่ตัว กล้องจากจุด ๆ เดียวเท่านั้นครับเพื่อเราจะได้สำรองไฟให้กับตัวกล้องได้ในกรณีไฟดับ แต่ตัวกล้องยังทำงานอยู่อันนี้ผมว่าจะดีกว่านะครับ ส่วนเครื่องบันทึกภาพเราสามารถใช้ทั่วไปได้แต่เราต้องดูก่อนนะครับว่า เครื่องบันทึกภาพชนิดนั้นลองรับการดูภาพ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตหรือไม่และสามารถดูภาพผ่านมือถือได้หรือเปล่าอันนี้ผม ว่าสำคัญเนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปค่อนข้างมากอนาคตเราจะไม่แน่นอนว่าเรา ต้องการดูหรือไม่ และในข้อถัดไปเราต้องดูว่าเครื่องบันทึกเราต้องการชัดแค่ไหนถ้าเราต้องการ ชัดมากราคาจะค่อนข้างสูงตาม แต่ภาพที่ได้จะชัดมากครับอันนี้เราต้องดูที่หน้างานเป็นหลักก่อนทำการติด ตั้งว่าลักษณะหน้างานเป็นสถานที่อะไรแล้วค่อยกำหนดอุปกรณืที่จะใช้ เป็นต้น
- กล้องกล้องชนิดนี้ท่านต้องเดินสายนำสัญญาณภาพเป็นสาย lan หรือสายไฟเบอร์ออฟติกแต่ระบบนี้ท่านต้องมีระบบเน็ตเวิลคที่ค่อนข้างดีก่อนนะ ครับถ้าระบบเรายังไม่ดีอาจจะต้องมีการปรับปรุงระบบก่อนทำการติดตั้งเพื่อให้ ได้ภาพไม่เกิดการสะดุดและความคมชัดสูงสุดส่วนตัวกล้องก็แล้วแต่ที่เราเลือก ใช้แต่ในปัจจุบันที่นิยมใช้กันคือขนาดภาพ 720p กับ 1080p ซึ่งความคมชัดที่ได้จะเป็นดังภาพที่ผมแสดงให้ท่านได้เห็นส่วนที่ท่านเห็นกัน ทั่วไปแล้วบอกว่ากล้อง ip camera ไม่มีความคมชัดอันนัันก็เนื่องจากท่านดูจากกล้องที่คุณภาพต่ำหรือกล้องที่มี ขนาดภาพสูงสุดไม่เกิน 352 สาเหตุก็มาจากท่านดูจากด้านพิกเซลอย่างเดียวท่านไม่ดูขนาดภาพที่แสดงครับ อันนี้สำคัญที่สุดครับส่วนไฟที่ใช้เลี้ยงตัวกล้อง ก็ให้ใช้ระบบเหมือนกล้องอนาล็อกครับ ส่วนเครื่องบันทึกภาพที่จะใช้กับกล้องประเภทนี้เราเรียกกันว่า nvr ซึ่งย่อมาจาก network video record สิ่งที่เราต้องสังเกตุของกล้องและเครื่องบันทึกภาพของระบบ ip camera เป็นอย่างแรกคือลองรับระบบ onvif หรือไม่นะครับถ้าไม่ลองรับผมแนะนำก่อนว่าอย่าซื้อครับไว้ผมจะอธีบายระบบ onvif ให้เข้าใจครับว่าคืออะไรแล้วสำคัญอย่างไร
- กล้องระบบ HD-SDI หรือที่เรียกกันว่ากล้อง HD ซึ่งกล้องชนิดนี้เราจะนำมาแทนกล้องชนิดอนาล็อกกันครับเนื่องจากวิธีการเดิน สายสัญญาณภาพรวมถึงระบบไฟที่ใช้เลี้ยงตัวกล้องก็เป็นลักษณะเดียวกับ กล้องอนาล็อก เพียงแต่กล้องชนิดนี้มีความคมชัดที่สูงถึงขนาด 1080P ซึ่งภาพที่ได้จะเทียบเท่าระบบ full HD ส่วนเครื่องบันทึกภาพที่จะใช้กับตัวกล้องชนิดนี้ได้ต้องเป็นเครื่องบันทึก ภาพระบบ HD-SDI โดยเฉพาะอย่างเดียวครับและตัวกล้องเราไม่สามารถต่อตรงเข้า TV ได้